หน้าเว็บ

มีวิธีแกะเส้นกระดูกทับเส้นประสาทมาบอกครับ

โรคปวดหลัง
เข้าใจว่าเกิดจากหลายปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์
โครงกระดูก และเส้นเอ็น หรือเกิดจากการทำงานหนัก
กินอาหารแสลงเป็นต้น

แต่สำหรับโรคปวดหลังของผมเป็นอยู่ข้างเดียว
ส่วนมากจะปวดอยู่ที่บริเวณช่วงปีกข้างขวา
แล้วปวดลงไปช่วงเอว และลงตามท้องแขนถึงข้อสอก
กิริยาท่าทางที่ทำให้โรคนี้ กำเริบ สังเกตเห็นได้ว่า
เกิดจาก การนั่งรถนานๆ หรือทำงานที่เกี่ยวกับเครื่องเหวี่ยงบ้าง
ยื่นมือไม่ถึงบ้าง

เวลาเส้นตึงขึ้นมา ผมรู้สึกเลยว่าไม่สบายกายอย่างมาก
เจ็บๆปวดๆพูดได้เลยว่า อยู่กับความเจ็บปวด
มานานจนกลายเป็นว่าชินกับอาการนั้น

ย้อนเวลากลับไป เกือบยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ในขณะที่ผมยังบวช
เป็นสามเณร อยู่ที่วัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ จ. แม่ฮ่องสอน
ได้ไปนวดกับหมอนวดท่านหนึ่ง ชึ่งเป็นที่รู้จักของคนแถวนั้นเป็นอย่างดี
ใครต่อใครหลายคนมานวดแล้วไม่เคยที่จะผิดหวัง

เวลาหมอเขานวด จะให้คนไข้นอนตะแค็ง หมอก็นั่งด้านหลัง
ใช้ไม้ที่เป็นเครื่องมือแกะเส้น คือลักษณะของไม้
ทำจากแก่นไม้ มีด้ามจับ ส่วนปลาย แหลมถู้ ผู้มานวด จึงไม่รู้สึกเจ็บรอย

แล้วก็ใช้ไม้ แกะขึ้นแกะลง ช่วงหลังจนถึงช่วงขา
ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ หมอเป็นคนใจเย็นมาก
ทั้งๆที่ไม่คิดค่านวดเป็นชั่วโมง หรือต่อคน ขั้นต่ำต้องเท่าไหร่

เวลาผมมาใช้บิการ ผมยังชอบถามหมอด้วยว่า
หมอครับ เวลานวดให้คนอื่นอย่างนี้นานๆไม่เมื่อยเหรอครับ
หมอตอบว่าไม่หรอก แต่เวลาหมอไม่ได้นวดคน แล้วตัวหมอจะปวดเมื่อย

เพราะอะไรหรอครับ ผมถาม หมอ เพราะว่าหมอมีครู
ที่สืบทอดจากการถ่ายทอดวิชาของอาจารย์

ผมยังถามต่อไปอีกว่า ถ้าผมอยากรับครูสืบทอดต่อจาก
หมอพอจะได้ไมครับ หมอ ได้สิ
แต่ต้องนวดให้เป็นแกะเส้นให้ถูกก่อน

แต่ผมเกรงว่า พอรับครูสืบทอดวิชาไปแล้ว ไม่ได้นวดคน
จะปวดเมือยซะเองอะครับ

พอหมอแกะเส้นจับเส้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นก็มีการล้างมือหมอ คือตักน้ำใส่ขันแล้วรดมือ
ทางหมอเขาก็มีการบ่นให้พร ให้โรคภัยไข้เจ็บไหลไปตามน้ำ
แล้วจึงให้ค่านวดตามแต่กำลัง

ชึ่งทางหมอเขาก็ไม่ได้กำหนดราคาค่านวดแต่อย่างใด
แต่ผมเองคิดว่า วิชาโบราณที่สืบกันเป็นทอดทอด
ทำด้วยใจ เพื่อบุญกุศลเสียมากกว่า
ก็คนที่มาใช้บริการส่วนมากให้ด้วยน้ำจิตรน้ำใจ
คือบอกว่า ให้ค่าหมาก ค่าพลู ค่าบู่หรี่ยาเส้นน่ะ

แต่บางเจ้า ยังไม่ได้ให้ค่าตอบแทนตอนนั้น
กว่าเขาจะมาก็อีกที ้เช่น วันพระใหญ่ ค่อยตระเตรียมน้ำส้มป่อย
มาล้างมือหมอ ค่าครูก็ค่อนข้างจัดหนักตามกำลังแรงศรัทธา

หลังจากผมไปนวดเมื่อต้องปวดหลังอยู่บ่อยๆ
แต่อย่างว่า นวดแล้วหาย พอนานวันเข้าก็กลับมาอีกเหมือนเดิม
ไม่กี่ปีต่อมา ผมยังไม่ทันรับครูจากหมอ หมอก็หมดบุญเสียก่อน

เวลาปวดหลัง ผมได้แต่นึกถึงหมอท่านนั้นเป็นประจำ
ในเมื่อไม่มีหมอให้แกะเส้นเเล้ว จำเป็นที่ต้องทำเอง
เวลามีอาการปวดหลัง ผมก็เริ่มทำเองบ้าง
ทำแบบที่หมอเคยแน่นำ และผมยังหา
เครื่องมือที่เป็นก้อนหินที่มีลักษณะปลายแหลมๆ
หรือบางทีก็ใช้ไฟแช็ก ใช้เป็นเครื่องมือประกอบในการแกะเส้นอีกด้วย

แล้วก็เรียนรู้โรคตัวเอง ที่เขาเรียกกันว่า กระดูกทับเส้น
จนเริ่มเข้าใจ และทำได้ขึ้นเรื่อยๆ
พอหลังจากจับเส้นตัวเองได้บ้าง
แล้วก็เริ่มทำให้คนอื่นๆ ในหมู่ เพื่อนๆ คนใกล้ชิด

แต่ทำให้คนอื่นนั้นอยากกว่าเยอะ
เพราะว่าเราไม่ได้รู้สึกอาการด้วยตนเอง
จึงต้องให้คนที่ถูกนวดคอยบอก ว่าจุดอยู่ตรงไหน
ตรงไหนที่เราไปจี้โดนตรงจุด

เส้นตรงเอว ที่ว่ากระดูกทับเส้นประสาทนั้น
พอผมทำให้คนอื่น ทำยากมาก เพราะว่าเส้นเล็กนิดเดียวแล้วก็ลึก
ชิดกระดูกสันหลังเลยก็ว่าได้

จนมาวันหนึ่ง แล้วมาได้เครื่องมือที่จะแกะเส้น
กระดูกทับเส้นประสาทนั้น คือ หวี












ตรงด้ามของหวี
เหมาะเจาะกับเส้นประสาทที่อยู่ลึก เช่นเส้นเอว อีกทั้งเนื้อในบริเวรนั้นค่องข้างหนา
จึงเป็นเหตุยากต่อการนวดหรือว่า จับเส้น เป็นจุดที่รักษายากสำหรับหมอจับเส้น

พอผมมีวิธีใช้หวีกับการแกะเส้น เมื่อได้แกะเส้นให้เขาหาย ก็ดีใจรู้สึกเหมือนได้ทำบุญ
ที่ได้ทำให้คนอื่นหายเจ็บหายป่วยได้บ้างฯ

ยี่สิบปีคงใกล้จะได้ ตั้งกะเคยนวดกับหมอวันนั้น
แล้วไม่เคยได้นวดกับหมอท่านอื่นอีกเลยตั้งแต่มีวิธีแก้ด้วยตนเอง
ผมเริ้มเป็นโรคปวดหลัง จำได้ว่า ตั้งแต่อายุยังน้อยน้อย
พอมีวิธีแก้ ก็ทำให้อยู่ได้จนทุกวันนี้ฯ

ปุ่มแชร์